SCB รุกหนัก เตรียมเป็นผู้นำทางด้าน FinTech อย่างสมบูรณ์

ช่วยกันแชร์ข้อมูลเพื่อเพื่อนสมาชิกท่านอื่นด้วยนะครับ :

เมื่อเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารในทุกด้าน อยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว

สวัสดีครับ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด ทุกท่าน

ผ่านไปแล้วนะครับกับเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 หยุดยาวๆแบบนี้ เหมือน Admin จะถูกบ่มเพาะความขี้เกียจไว้ในทุกเซลของร่างกาย แต่ก็ต้องทำใจสลัดตัวออกจากที่นอน แล้วบอกกับตัวเองว่า “หมดเวลาสนุกแล้วสิ” (เป็นอะไรที่เทเลทับบี้มากๆ)

ระหว่างกำลังทำงานในช่วงหยุดยาว ก็เหลือบไปเห็นโฆษณาของทาง SCB ตัวนี้ ทีีทาง SCB พยายามยิงโฆษณาใน Youtube (เปิดคลิปไหนก็เจอโฆษณาตัวนี้)

ซึ่งเข้าใจได้ว่าทาง  SCB นั้น กำลังพยายามเฟ้นหา Programmer ระดับหัวกะทิจากทั่วประเทศ มาพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการเงินอย่างเป็นรูปแบบ

ที่ผ่านมาเราได้เห็น SCB ทำการตลาดในเรื่องการกดเงินแบบไม่ใช่บัตรมาแล้ว ซึ่งก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าได้ไม่น้อย

หรือแม้แต่เทคโนโลยี Blockchain ทาง SCB ก็เป็นผู้ประเดิมการใช้งานเจ้าแรกเช่นกัน (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ และคิดว่าคงไม่ผิดนะ)

ซึ่งดูเหมือนว่า SCB คงไม่หยุดแค่นั้น จึงได้เกิดโฆษณาแคมเปญนี้ออกมา

คำถามคือ จะพัฒนาอะไรกันขนาดไหนละ? ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ?

แต่ด้วยหลักการให้บริการ ผนวกกับแนวคิดทางด้านการเงินและการเขียนโปรแกรม จะมีเรื่องที่เข้าใจได้ตรงกัน 1 เรื่อง คือ “การลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย”

เหมือนที่ Mobile Application ของธนาคารแต่ละเจ้านั้นทำออกมาให้กลุ่มลูกค้าได้ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินแบบ Online โดยไม่ต้องไปธนาคารยังไงละครับ

เปิดมือถือ จิ้มไม่กี่ที ก็โอนเงินจากธนาคารหนึ่งไปอีกธนาคารหนึ่งอย่างง่ายดาย จ่ายเงินก็จ่ายผ่าน QR-Code ได้ ไม่ต้องพกเงินสด

สำหรับผม เงินสดในยุคนี้ คงพกไว้ใช้กับตลาดสดเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือการยอมรับนวัตกรรมของตัวลูกค้านั่นเอง

แทบจะอดใจไม่ไหวแล้วครับว่า SCB เขากำลังจะทำอะไร ลองอ่านตำแหน่งที่เขาประกาศรับสิครับ

[ รายละเอียดเพิ่มเติม ]

คิดว่าในยุคหน้า …. ธนาคารอาจมีพนักงานประจำสาขาเพียงแค่ 2-3 คน เพราะทุกอย่างถูกดำเนินการด้วยเทคโนโลยีไปหมดแล้ว

ซึ่งวันหนึ่งผมเชื่อว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด จะสามารถก้าวไปอยู่จุดๆเดียวกับธนาคารได้เช่นกัน

ป.ล. อันนี้ส่วนตัวครับ ใครมีลูกมีหลาน ส่งไปเรียนเขียนโปรแกรมก็ดีนะครับ บุคลากรด้าน Programmer ของเรานั้นถือว่าน้อย เรียกว่า “ขาดแคลน” เลยก็ว่าได้ และเราอ่อนด้อยในด้านการข่าวและข้อมูลมากๆ เรียนหมอ เรียนวิศวะ ก็เยอะแล้ว ลองหันมามองสาย Programmer บ้างนะครับผม